หน้าเว็บ

8.31.2555

นางมณโฑ

 

นางมณโฑเทวีเป็นนางฟ้าผู้รับใช้ไกล้ชิดของพระอุมาเทวี อดีตชาติเป็นนางกบ
ที่ได้อาศัยอยู่กับพระฤๅษี 4 องค์ที่บำเพ็ญตบะมาหลายหมื่นปี
ทุกเช้าจะมีนางโคห้าร้อยตัวมาหยดน้ำนมลงในอ่างให้ฤๅษีดื่มกิน
ฤๅษีก็จะแบ่งน้ำนมให้แก่นางกบกินด้วยทุกวัน
อยู่มาวันหนึ่งมีนางนาคขึ้นมาจากเมืองบาดาลด้วยความกำหนัดใคร่หาชายมาสมสู่ด้วย
หาเท่าไรก็ไม่เจอนาคผู้ซักตนจนไปพบงูดินเพศผู้ตัวหนึ่งจึงกลายร่างเป็นพญา
นาคและร่วมสมสู่กับงูดิน ฤๅษีทั้ง4 เดินมาพบก็แปลกใจเหตุใดพญานาคลดตัวต่ำมาร่วมรักกับงูดินได้
พระฤๅษีจึงเอาไม้เท้าเคาะที่กลางหลัง นางนาคตกใจและอับอายหนีหายเข้าเมืองบาดาล
 นางนาคคิดได้จึงคิดฆ่าพระฤๅษีเพราะกลัวว่าจะนำเรื่องของตนไปเผยแพร่จึงได้คายพิษใส่ในอ่างน้ำนม
นางกบมาเห็นจึงกินนมในอ่างจนหมดจนตนเองตายพระฤๅษีมาเห็นจึงเพ่งตบะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
จึงทำการชุบชีวิตและเสกนางเป็นสาวงามและตั้งชื่อว่า นางมนโฑ ซึ่งหมายถึง นางกบ
และนำนางไปถวายแก่พระอิศวรพระอิศวรรับนาง และให้นางไปเป็นนางรับใช้พระอุมาเทวีมเหสีของตน
ภายหลังได้ประทานให้แก่ทศกัณฐ์ที่สามารถชลอเขาไกรลาศให้ตั้งตรงได้


ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/นางมณโฑ

8.29.2555

เมดูซ่า (Medusa)



 
เมดูซ่า (Medusa) เป็นผู้หญิงที่มีผมเป็นงูและเมื่อมีคนมองมาที่ใบหน้าเธอเธอจะสาปให้คนผู้นั้นกลายเป็นหินที่จริงแล้วก่อนที่เมดูซ่าจะมีความร้ายกาจดังที่เป็นที่เล่าขานกันมานั้นเมดูซ่านั้นเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงามมาก
เมดูซ่าเป็นหนึ่งในลูกสาวทั้งสามของเมทิสซึ่งเมทิสเป็นเจ้าแห่งสติปัญญาและสามารถแปลงร่างเป็นสิ่งต่างๆได้มากมายแต่เดิมลูกทั้ง3ของเมทิสเป็นคนที่สวยงามมากแต่แล้ววันหนึ่งเมทิสแม่ของเมดูซ่าถูกเทพซีอุส(Zeus)ข่มขืนและกลืนกินลงท้องไปและเซอุสจึงได้ใช้สติปัญญาและความสามารถทางการแปลงร่างของเมทิสเพิ่มอำนาจให้กับตนเองพลังอำนาจนั้นทำให้เทพเซอุสยิ่งใหญ่เหนือเทพทั้งปวงและต่อมาเทพธิดาเอเทน่า(Athena)ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากการที่พลังของเมทิสทะลักออกมาทางหน้าผากของซีอุสเมื่อเอเทน่าได้กำเนิดขึ้นพร้อมกับความสามารถทางสติปัญญาของเมทิสผู้เป็นแม่และเอเทน่าก็ถือเมดูซ่าพี่น้องร่วมสายเลือดแม่เป็นศัตรูคนสำคัญอยู่มาวันหนึ่งเมดูซ่าที่เป็นสาวงามมีชายหลายคนหมายปองเป็นเจ้าของก็ได้ไปบูชาเทพเอเทน่ายังวิหารของเอเทน่าแล้วเทพโพไซดอน(Poseidon)ก็เห็นเมดูซ่าที่มีหน้าตาสวยงามมากจึงต้องการครอบครองเมดูซ่าเป็นของตนจึงใช้กำลังขืนใจเมดูซ่า เอเทน่าเห็นดังนั้นจึงใส่ความเมดูซ่าว่าลบหลู่เอเทน่าในวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้และสาบเมดูซ่าให้กลายเป็นมารร้ายหน้าตาน่าเกลียดและสาบให้ผมสวยงามของเมดูซ่าเป็นงูเต็มหัวเมดูซ่าเมื่อเป็นเช่นนี้เมดูซ่าต้องได้รับความอับอายโกรธแค้นจึงได้ใช้ความเกลียดชังนั้นมาเป็นพลังในการสาบคนที่มองหน้าเธอให้กลายเป็นหินไปเพื่อตอบแทนสิ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นเช่นนี้เมดูซ่าจึงกลายเป็นมารร้ายที่สุดตนนึงในตำนานกรีก
                                                 
สุดท้ายเมดูซ่าก็ถูกเพอร์เซอุสฆ่าตายจากการถูกเพอร์เซอุสใช้ดาบฟันคอขาดซึ่งเอเทน่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังในการตายของเมดูซ่าที่เอเทน่าให้เพอร์เซอุสไปฆ่าเมดูซ่าแทนนั้นเพราะเอเทน่าเป็นเทพแล้วจึงใช้อำนาจในทางที่ผิดได้ไม่มากจึงใช้มือของเพอร์เซอุสในการทำการเรื่องนี้

                                               




ที่มา : http://writer.dek-d.com/writer/story/view.php?id=214540#ixzz24zbYTOsb

Seven Deadly Sins บาป 7 ประการ

                          

เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์ในอดีตกาล ให้มนุษย์ไม่ทำตามสัญชาตญาณของตนมากจนเกินไป ทางศาสนาคริสต์ได้แบ่งบาปออกเป็น 2 ประเภทคือแบบที่สามารถยกโทษให้ได้และ แบบรุนแรง ในต้นศตวรรษที่ 14 หลักคำสอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปิน (หรือแม้กระทั่งในปัจจุบัน) ผลงานศิลปะมากมายที่สื่อถึงบาป 7 ประการแพร่ไปทั่ววัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก
เรียงลำดับจากความรุนแรงน้อยไปหามาก ตามคำสอนของสันตะปาปา เกรโกรี คริสต์ศักราชที่ 6

                                                 

ราคะ (ภาษาลาติน : Luxuria ลุกซุเรีย : ภาษาอังกฤษ : Lust)
การคิดในทางเสื่อม ความต้องการเป็นที่สนใจจากผู้อื่น ความต้องการความเร้าใจ หมกมุ่นทางเพศที่มากจนเกินไปหรือที่ผิดมนุษย์ปกติ
ความใคร่ที่เกิดขึ้นในทางทุจริต เช่นการมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์กับพ่อแม่หรือลูกหลานตัวเอง การข่มขืน การมีชู้
สัญลักษณ์แห่งราคะ คืองูหรือวัว สีประจำบาปนี้คือสีฟ้า บทลงโทษผู้กระทำบาปข้อนี้คือ ถูกรุมด้วยสารกำมะถันและไฟ
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดราคะ คือ ความบริสุทธิ์ ความหวงแหนในพรหมจรรย์


                                               

ตะกละ (ภาษาลาติน : Gula กูลา : ภาษาอังกฤษ : Gluttony)
การ สนองความต้องการโดยไม่ยั้งคิด มุ่งร้ายเอาของคนอื่น บริโภคสิ่งต่าง ๆ จนขาดการไตร่ตรอง บริโภคจนมากเกินไป มากจนเกินความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหาร รวมถึงการบริโภคสิ่ง ๆ ต่าง ๆโดยไม่คำนึงสนใจหรือเห็นใจคนอื่น 
สัญลักษณ์ของตะกละ คือหมู สีประจำบาปคือสีส้ม บทลงโทษของผู้ที่ตะกละในนรกคือการที่ถูกกินทั้งเป็นโดยหนู คางคกและงู
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดตะกละ คือ ความพอดี การยับยั้งชั่งใจ

                                               




โลภ (ภาษาลาติน : Avaritia อวาริเทีย : ภาษาอังกฤษ : Greed/Avarice)
ความทะเยอทะยานอันแรงกล้าในการให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินและอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงแนวทางหรือคุณธรรมในการได้มาซึ่งสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการขโมย การขู่กรรโชกทรัพย์ ยักยอก การกักเก็บทรัพย์สินต่างๆ โดยไม่แบ่งปันหรือช่วยเหลือผู้อื่น ต่อมาโลภรวมถึง การหาทรัพย์อย่างทุจริตมาใช้เพื่อประโยชน์ทางศาสนาด้วย ถือเป็นการมุ่งร้ายต่อศาสนาและเป็นการหักหลังต่อผู้นับถือคริสต์ศาสนาอีก ด้วย


สัญลักษณ์ของโลภ คือ กบ สีประจำบาปคือสีเหลือง บทลงโทษของผู้ที่โลภมากคือการถูกแช่ในน้ำมันเดือด
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโลภ คือ ความเมตตา การแบ่งปัน


                                                 


เกียจคร้าน (ภาษาลาติน : Acedia อาซีเดีย : ภาษาอังกฤษ : Sloth/Laziness)
ความ ไม่สนใจใยดีต่อการเปลี่ยนแปลง ต่อสิ่งรอบข้าง ใช้เวลาอย่างไร้ค่า ความไม่ต้องการที่จะทำอะไร โดยปล่อยให้ผู้อื่นเป็นผู้ทำงานหนักเพื่อตนเองเท่านั้น การปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่ของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละเลยที่จะทำดีรวมถึงการละเลยที่จะเคารพต่อพระเจ้าด้วย ผู้ที่เกียจคร้านจะอยู่เฉย ๆ รักษาสภาพความเป็นอยู่ของตนเองในภาวะเดิมตลอดเวลา ไม่ทำอะไรมาก แต่ก็ไม่ใช้อะไรมากเช่นกัน

สัญลักษณ์ของเกียจคร้าน คือแพะ สีประจำบาปคือสีคราม บทลงโทษของผู้เกียจคร้านคือการถูกโยนลงไปในบ่องูพิษ
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดเกียจคร้าน คือ ความกระตือรือร้น ความทะเยอทะยาน

                                                 
โทสะ (ภาษาลาติน : Ira ไอรา : ภาษาอังกฤษ : Wrath)
ความ โกรธเคืองและพยาบาทที่ขาดความเหมาะสม การทนรับสภาพในบางสิ่งบางอย่างไม่ได้ การแสวงหาหนทางผิดกฎหมายบ้านเมือง ในศีลธรรมในการล้างแค้น การมุ่งร้ายที่จะทำสิ่งต่าง ๆ แก่บุคคลที่ตนไม่ชอบ รวมถึงการไม่ชอบบุคคลอื่นโดยไร้เหตุผล เช่น สีผิว เชื้อชาติ ศาสนา นำไปสู่การฆ่าและฆาตกรรมผู้อื่น โมหะคือความโกรธที่ไม่ต้องการที่จะยกโทษ  
สัญลักษณ์ของโมหะ คือหมี สีประจำบาปคือสีแดง บทลงโทษของผู้ที่มีบาปโมหะคือ การถูกฉีกร่างทั้งเป็น (ซ้ำแล้วซ้ำเล่า)
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโมหะ คือ ความนอบน้อม การให้อภัย

                                                 


อิจฉา (ภาษาลาติน : Invidia อินวิเดีย : ภาษาอังกฤษ : envy)
ความ ปรารถนาให้ผู้อื่นรับเคราะห์ การไม่ยอมรับผู้อื่นที่มีสิ่งต่างๆ ดีกว่าตนเอง ทั้งด้านทรัพย์สมบัติ ลักษณะรูปร่างนิสัย และ การประสบความสำเร็จ ความอิจฉานำไปสู่การรังเกียจตัวเอง ต้องการอยากเป็นผู้อื่น นำไปสู่การขโมยและทำลายผู้อื่น ความอิจฉาเป็นการพัฒนาต่อจากตะกละและโลภที่สุดขั้ว
สัญลักษณ์ของอิจฉา คือสุนัข สีประจำบาปคือสีเขียว บทลงโทษผู้ที่มีความอิจฉาคือถูกแช่แข็งในน้ำเย็นจัด
ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดอิจฉา คือ ความกรุณา ความเผื่อแผ่



                                               


โอหัง (ภาษาลาติน : Superbia ซูเปอร์เบีย : ภาษาอังกฤษ : Pride/Hubris)
ยะ โสเป็นยอดแห่งบาปทั้งปวง ความหยิ่งยะโสคือต้องการเป็นผู้ที่มีความสำคัญและอำนาจเหนือผู้อื่น การที่รักตนเองมากจนเกินไป หลงในอำนาจและรูปลักษณ์ของตัวเอง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปรียบตนเองเทียบเท่ากับพระเจ้า) ซึ่งบาปประการนี้ทำให้
ลูซีเฟอร์ (ปีศาจประจำบาปนี้) ถูก ขับไล่ออกจากสวรรค์ เนื่องจากลูซีเฟอร์เห็นว่าตนมีอำนาจเท่ากับพระเจ้าและสามารถสร้างพรรคพวกของ ตัวเองเพื่อต่อต้านและไม่เคารพพระเจ้า คนที่มีความหยิ่งยะโสจะสนใจเฉพาะตนเองเท่านั้น ไม่สนใจว่าผู้อื่นจะเป็นเช่นไร 
สัญลักษณ์ของโอหัง คือ ม้า สิงโตหรือนกยูง สีประจำบาปคือสีม่วง บทลงโทษของผู้ที่โอหังคือการถูกทรมานบนวงล้อ (มัดกับวงล้อแล้วให้วงล้อหมุนเรื่อย ๆ ผู้ถูกทรมานจะถูกบดขยี้กับพื้น)

ศีลธรรมที่ช่วยกำจัดโอหัง คือ ความถ่อมตน การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น




 ที่มา : http://www.gracezone.org/index.php/other-knowlage-christian/595--7-seven-deadly-sins-1
          http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=2475416 





World Wide Web เวิลด์ไวด์เว็บ :)